www.greeneryclinic.com

ผลิตภัณฑ์เตียงหินหยก อัศจรรย์แห่งการล้างพิษ

Products

กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ขับพิษ สลายไขมัน  ด้วยพลังหินร้อนอินฟราเรด

ศาสตร์โบราณที่วงการวิทยาศาสตร์ยอมรับ

การใช้หินร้อนนวดแก้อาการปวดเมื่อย เป็นศาสตร์เก่าแก่ที่ปรากฏหลักฐานอยู่ในหลายท้องถิ่นทั่วโลกสืบย้อนไปหลายพันปี โดยส่วนใหญ่ใช้หินที่ได้จากภูเขาไฟ เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุ อีกทั้งยังเก็บความร้อนได้ดี ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ยืนยันว่า การนวดบำบัดด้วยหินร้อนของคนโบราณ มิใช่การประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อเท่านั้น  แต่จัดเป็นศาสตร์ธรรมชาติบำบัดที่ใช้รักษาอาการเจ็บป่วยได้จริง โดยอาศัยพลังงานที่สะสมอยู่ในหินซึ่งอุดมด้วยแร่ธาตุ นำมากระตุ้นด้วยความร้อนเพื่อขับดันพลังงานเหล่านั้นเข้าสู่ตัวผู้ป่วย จึงช่วยผ่อนคลาย บำบัดอาการปวดกล้ามเนื้อ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและน้ำเหลือง ฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อ และกระตุ้นการทำงานของเซลล์ รวมทั้งช่วยลดเซลลูไลท์  ด้วยข้อพิสูจน์ทางวิยาศาสตร์นี้เอง จึงทำให้การนวดบำบัดด้วยหินร้อนกลายเป็นทรีทเมนต์ที่สปาส่วนใหญ่ขาดไม่ได้ในทุกวันนี้

ประยุกต์เป็นแผ่นรองนอนหินร้อนให้เข้ากับยุคสมัย

ในฐานะชนชาติหนึ่งที่เป็นขุมคลังความรู้ว่าด้วยศาสตร์ ธรรมชาติบำบัดมายาวนานนับพันๆ ปี อีกทั้งการนวดบำบัดด้วยหินร้อนก็เป็นแขนงหนึ่งของศาสตร์การแพทย์จีนโบราณ  ซึ่งกลายเป็นต้นแบบของการนวดหินร้อนในสปาส่วนใหญ่ทั่วโลก เมื่อก้าวสู่ยุคเทคโนโลยี ชาวจีนและชาวญี่ปุ่นจึงเลือกที่จะสืบทอดศาสตร์เก่าแก่อันทรงคุณค่านำมาผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อประยุกต์ใช้ในรูปแบบที่ง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้นเหมาะกับคนยุคปัจจุบัน ดังนั้นโลกจึงได้เห็นการถอดคุณประโยชน์ของการนวดบำบัดด้วยหินร้อนมาบรรจุลงในแผ่นรองนอนหินร้อนอินฟราเรด ประดิษฐ์กรรมแพทย์ประยุกต์อันน่าทึ่ง

โดยการนำหินธรรมชาติ 3 ชนิดที่มีคุณสมบัติเป็นเลิศ ได้แก่ หินหยก หินเจอร์เรเนียม และ หินทัวร์มาลีน มาฝังเรียงกันบนผ้าฝ้ายเส้นใยคาร์บอนไม้ไผ่และเส้นใยแก้ว  ห่อหุ้มด้วยผ้าตาข่ายความหนาแน่นสูงเพื่อยึดเกาะมิให้หินหลุดเลื่อน ตัดเย็บเป็นแผ่นรองนอนขนาด 1 เตียงติดตั้งปลั๊กไฟฟ้าเพื่อนำความร้อนเข้าสู่หิน กระตุ้นให้ปล่อยรังสีอินฟราเรดและแร่ธาตุ ซึ่งจะถูกซับผ่านผิวหนังของผู้นอน ก่อให้เกิดประโยชน์

สุดยอดแห่งหินธรรมชาติ อุดมด้วยแร่ธาตุเพื่อฟื้นฟูสุขภาพของมนุษย์

หินหยก อุดมด้วยแร่ธาตุที่ร่างมนุษย์ต้องการมากกว่า 30ชนิด เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม ซิลีเนียม สังกะสี แมงกานีส ทองแดง เป็นต้น อีกทั้งแร่ธาตุจากหยกจะแผ่คลื่นพลังงานออกมาในระดับเดียวกับคลื่นสั่นสะเทือนในเซลล์ของมนุษย์จึงช่วยกระตุ้นเซลล์ได้ ส่งผลให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ช่วยเพิ่มการเผาผลาญและขจัดของเสียออกจากร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

หินเจอร์เรเนียม ประกอบด้วยแร่ธาตุที่ร่างกายมนุษย์ต้องการมากว่า 45 ชนิด อาทิ แมกนีเซียม เหล็ก แคลเซียม คาร์บอน, โปแตเชี่ยม โซเดียม คลอโรฟิลล์และอื่นๆ หินเจอร์เรเนียมจะปล่อยประจุลบออกมาเป็นจำนวนมาก เพื่อนำแร่ธาตุเหล่านี้ซึมวาบเข้าสู่ร่างกาย ช่วยลดความดันโลหิต ลดคอลเลสโตรอล ลดเซลล์ลูไลท์ ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ลดไมเกรน  อัลไซเมอร์ โรคเครียด  และโรคอื่นๆ และยังช่วยบรรเทาอาการปวดกระดูก ปวดข้อต่างๆ โรคเก๋าต์ ปวดไหล่ เส้นเอ็นอับเสบได้ เป็นอย่างดี

 หินทัวร์มาลีน มีแร่ธาตุอลูมิเนียม โซเดียม แมกนีเซียม เหล็ก โบรอน และแร่ธาตุอีกมากกว่า10 ชนิดที่ร่างกายต้องการ สามารถปล่อยรังสีอินฟราเรด และกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ได้ด้วยตังเอง เพื่อนำแร่ธาตุซึมวาบสู่เส้นประสาท ส่งผลให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น บรรเทาอาการชาตามปลายมือปลายเท้า มือเย็นเท้าเย็น โรคประสาทแก้อาการปวดไหล่ ปวดเอว และอาการปวดกล้ามเนื้อต่างๆ

การนวดด้วยหินร้อนบำบัดในสปาอาจต้องพึ่งพาทักษะฝีมือของผู้นวดเป็นสำคัญ แต่นักประดิษฐ์ชาวญี่ปุ่นได้ช่วยทำให้คนเราเก็บรับพลังธรรมชาติจากหินแร่ธาตุเหล่านี้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยวิธีง่ายๆ และสะดวกสบาย ทำได้เองตลอดเวลาด้วยแผ่นรองนอนหินร้อนอินฟราเรด ง่าย เร็วเห็นผล ปลอดภัย


คู่มือการใช้งาน    Manual

   การฟื้นฟูสุขภาพที่ดีที่สุดคือการนอน เราขอแนะนำเตียงนอนเพื่อสุขภาพ อัศจรรย์แห่งการนอนรวมการล้างสารพิษในหนึ่งเดียวแบบธรรมชาติ
แค่คุณ นอนปกติ ทุกวันคุณก็สามารถล้างสารพิษได้ด้วยตัวเอง หลักการทำงานของแผ่นรองที่นอนที่สามารถปรับระดับได้ตามความต้องการเพื่อการ นอน
ล้างสารพิษหรือนอนตลอดคืน สารพิษที่ถูกขับออกทางร่างกายสามารถขับได้ 3 ทางคือ ทางปัสสาวะ อุจจาระ และเหงื่อ พลังงานที่ได้รับจากเครื่องจะฟื้นฟูเซลล์ในร่างกาย ปรับสมดุล ทั้งระบบโลหิต ไต ลำไส้ ลดจุดด่างดำ ชะลอความแก่ คงความอ่อนเยาว์และปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่ม ปลอดภัย ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อถือได้ (มาตรฐาน ISO9001, CE ของยุโรป และอื่นๆ)

   หลักการทำงานคือประสานพลังงานชีวภาพ 3 ประการคือ อิออนลบ (Nagative lon) รังสีอินฟาเรด (FIR Far Infra Red Ray) และพลังงานสนามแม่เหล็ก Alternative Magnetic Field) VLF (Very low frequency)

จุดเด่น

1. ช่วยเร่งการขับสารพิษ ของเสีย ออกจากร่างกาย
2.เพิ่มประสิทธิภาพของระบบต่างๆ เช่น ระบบไหลเวียนโลหิต ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบหายใจ ระบบขับถ่าย ระบบประสาท ระบบกล้ามเนื้อ
3.ช่วยให้ระบบต่างๆ ทำงานได้อย่างสมดุล
4.ส่งเสริมให้ร่างกายแข็งแรง ลดอาการเมื่อยล้า
5.ช่วยฟื้นฟูผู้ป่วยเรื้อรัง
6.มีระบบที่ปรับได้คล้ายๆ กับการทำซาวน่า
7.กระตุ้นเซลล์ให้เกิดการฟื้นตัว ซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอ เร่งการขับสารพิษออกจากร่างกาย

 

ขบวนการขับสารพิษด้วยระบบออ ร่า คือ วิธีทางธรรมชาติที่ดีที่สุด เร่งขับสารพิษออกจากร่างกาย ฟื้นฟูเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย ปลอดภัย สะดวก สบาย
ผ่านการทดสอบแล้วว่าได้ผลดีเยี่ยม  ฟื้นฟูทุกระบบทั้งระบบโลหิต ผิวหนัง ไต ลำไส้ ขบวนการขับสารพิษสมบูรณ์แบบด้วยพลังงานชีวภาพ  4 อย่าง

1.อิออนลบ (Negative lon) ทำให้ร่างกายสดชื่น ทำให้เซลล์ต่างๆ ของร่างกายแข็งแรงขึ้น เพิ่มกระบวนการเผาผลาญ, เร่งขับสารพิษระดับเซลล์, 
ฟอกเลือดและอากาศให้บริษัทบริสุทธิ์ สร้างเสถียรภาพทางอารมณ์อย่างอัศจรรย์
2.รังสีอินฟราเรด (Far infra red ray: FIR)  มีผลดีที่สุดต่อมนุษย์ มีผลต่อโมเลกุลน้ำ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด กระตุ้นการเผาผลาญ
ปรับสมดุลภาวะกรดด่าง
3.พลังงานสนามแม่เหล็ก (Alternative magnatic field) VLF สร้างสมดุลของพลังงานไฟฟ้าในร่างกายมนุษย์ เพิ่มประสิทธิภาพการชำระล้างของเซลล์
และเลือด

 

1.ประจุลบ  ( Negative Ion )
นักวิชาการและนักค้นคว้าวิจัยต่างมีความเห็นสรุปตรงกันว่า “การมีสุขภาพที่ดีมีส่วนสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับปริมาณและคุณภาพของ Negative Ion หรือ 
ประจุลบในสภาพแวดล้อมรอบตัวเรา” Negative Ion หรือประจุลบ เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นแต่เราสามารถสัมผัสได้ในบริเวณที่มี ปริมาณประจุลบ จำนวนมาก เช่น บริเวณใกล้แหล่งน้ำตก ป่าไม้ที่ชุ่มชื้น  หรือชายฝั่งทะเล มหาสมุทร ซึ่งคุณจะรู้สึกสดชื่นเมื่ออยู่ในบริเวณเหล่านี้ นักวิทยาศาสตร์ให้ความเห็นว่า “นั่นเป็นเพราะกลุ่มโมเลกุลที่มีอิเล็คตรอนในปริมาณ มากกว่าปกติ ซึ่งพร้อมที่จะแลกเปลี่ยน จับคู่เพื่อสร้างสมดุลให้กับเซลล์ที่ถูกทำลาย จึงสามารถช่วยบรรเทาอาการภูมิ แพ้ ไมเกรน และไซนัสได้ เมื่อประจุลบ แทรกซึมเข้าสู่กระแสเลือด จะมีผลในการกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเซโรโทนิน (Serotonin) จึงทำให้รู้สึกสด ชื่น กระปรี้กระเปร่า เพิ่มพลังความแกร่งของเซลล์

Negative Ion สำคัญอย่างไร ?
อิออนลบนั้น จะทำงานตรงข้ามกับอิออนบวก โดยจะเข้ามาป้องกันหรือทำให้อิออนบวกสมดุล ซึ่งกับร่างกายเราแล้วนั้น อิออนลบจึงเสมือนวิตามินใน อากาศนั่นเอง แต่ทั้งนี้แล้วนั้น อิออนลบเองนั้นไม่สามารถอยู่ในอากาศได้นานนักก็จะสลาย ตัวไป และเจ้าอิออนลบนี้สามารถพบได้ตามป่าเขา โดยเฉพาะใน บริเวณน้ำตกจะมีปริมาณของอิออนลบที่สูงและมีธาตุบางอย่างในธรรมชาติที่มี คุณสมบัติในการปล่อยเจ้าอิออนลบนี้ได้ ซึ่งธาตุตัวนั้นคือ ทัวร์มารีน (Tourmaline)  ซึ่งปกติแล้วธาตุชนิดนี้หรือก็คือหินอัญมณีชนิดหนึ่ง ในสภาพปกติก็ไม่สามารถ แผ่อิออนลบได้มากนัก จำเป็นต้องมีกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ช่วยด้วยจึงจะ สามารถเพิ่มอัตราในการแผ่อิออนลบออกมาได้มากขึ้น

คุณสมบัติของอิออนอย่างหนึ่งที่เด่นชัด คือ การแผ่หรือ การแพร่กระจายนั้นจะเหมือนกับรังสีต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น หากนำน้ำหอมมาใส่ในถุงพลาสติกอย่าง มิดชิดแล้ว เราก็ไม่สามารถดมกลิ่นได้ หรือหลอดไฟที่ใส่ในกล่องทึบ เราก็ไม่สามารถมองเห็นแสงได้ แต่รังสีนั้นสามารถแผ่ผ่านวัตถุต่างๆ มาได้ ฉะนั้นใน ภาพยนตร์ฮอลลีวูดจึงจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ในการป้องกันรังสีโดยเฉพาะ ซึ่งนั่น คือรังสีที่มีอันตรายและรุนแรง แต่อิออนลบนั้นมีประโยชน์แถมยังสลายตัวใน
อากาศง่ายอีกด้วย เมื่อร่างกายมีประจุบวกมาก จะทำให้กระบวนการการทำงานของระบบช้าลง และด้วยสาเหตุนี้เองที่ทำให้เกิดโรคแห่งความเสื่อมต่างๆ ได้แก่ โรคความดัน  โรคหัวใจ หลอดเลือดอุดตัน เส้นเลือดแตกในสมอง รวมไปถึงโรคมะเร็ง หากร่างกายได้รับประจุลบในปริมาณเพียงพอจะช่วยทำให้ระบบต่างๆ กลับสู่สภาพ ปกติ อาจกล่าวได้ว่า “ประจุลบสามารถเสริมพลังการทำงานในระบบเมตาบอลิซึมของเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ ได้”

 
   จาก ที่ได้มีการทดลองทางวิทยาศาสตร์นี้เอง ก็ไม่ได้มีบทวิจัยใดที่มีการกล่าวถึงการรักษาโรคที่ได้กล่าวมาก่อนหน้านี้ แต่อย่างใด แต่ อิออนลบนี้สามารถ
มีส่วนช่วยด้านสุขภาพ ดังที่จะกล่าวดังต่อไปนี้
 
รายการ
อิออนลบ
อิออนบวก
ทั่วไป
ทำให้สงบ
เร่งกระตุ้นให้เกิดความฟุ้งซ่าน
ทำให้หลับสบายขึ้น
ทำให้นอนไม่ค่อยหลับ
ช่วยบรรเทาอาการปวด
ทำให้ปวดศีรษะ
กระตุ้นความอยากอาหาร
ทำให้รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว
ความดันโลหิต
ลดลง
เพิ่มขึ้น
อัตราความถี่ของการเต้นของชีพจร
ลดลง
เพิ่มขึ้น
ระบบหายใจ
สม่ำเสมอ
ไม่สม่ำเสมอ
ขนาดเส้นเลือดฝอย
ขยายตัว
ตีบตัวลง
ระดับน้ำตาลในเลือด
ลดลง
เพิ่มขึ้น
ระดับกรดแลคติคในเลือด
ลดสู่ระดับปกติได้อย่างรวดเร็ว
ลดสู่ระดับปกติได้ช้า
การจับตัวของเกร็ดเลือด
เพิ่มขึ้น
ลดลง
การใช้ออกซิเจน
ลดลง
เพิ่มขึ้น
ระดับไนโตรเจนในปัสสาวะ
เพิ่มขึ้น
ลดลง
ความเหนื่อยล้า
หายเหนื่อยเร็วขึ้น
หายเหนื่อยช้า
การเติบโตของกระดูก
ส่งเสริมการเติบโต
มีผลกระทบ (ไม่ดี) กับกระดูก

 

   นอกจากนี้ คุณประโยชน์ของประจุลบที่มีต่อเซลล์ร่างกายยังมีอีกมากมายคือกระตุ้น ให้เกิดการแตกประจุของแคลเซียมและโซเดียมที่ไหลเวียนใน
กระแสเลือด ทำให้ค่า pH ของเลือดสูงขึ้น เปลี่ยนเป็นสภาวะด่าง ซึ่งจะช่วยในการปรับสมดุลของเสียที่มีสภาวะกรดในเลือด ทำให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น
Dr. Nagamo (Kumamoto Civil Hospital) และ Dr. Maiyama (Kyoto Hospital) แห่งสถาบันการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับอาการปวดอย่างรุนแรงในโรคต่างๆ 
กล่าวว่า “Negative Ions หรือประจุลบ มีประสิทธิภาพในการผ่อนคลายอาการปวดของผู้ป่วย” จากการทดลองกับผู้ป่วยที่มีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงและ
ผู้ป่วยที่มีอาการทางประสาท ปรากฏว่าเห็นผลได้ชัดเจนในหลายการทดสอบ จาก ผลงานวิจัยของ Dr. Tanaka แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น 
พบว่า “เมื่อประจุลบแทรกซึมเข้าสู่กระแสเลือด ปริมาณไอออนของแคลเซียมและเกลือแร่สำคัญอื่นๆ จะเพิ่มปริมาณมากขึ้นในเลือด ทำให้เลือดมีสภาวะ
เป็นด่าง พร้อมที่จะปรับสมดุลกับของเสียในเลือด ช่วยให้เลือดสะอาดและไหลเวียนได้ดีขึ้น นอกจากนี้ Dr. Tanaka ยังพบว่า “ประจุลบเป็นตัวควบคุมความ
สมดุลของระบบประสาทสั่งการในการผลิตฮอร์โมน อินซูลินกับต่อมหมวกไต ซึ่งมีความสำคัญต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน” เมื่อ ปริมาณประจุลบเพิ่มขึ้นในกระแส
เลือด จะส่งผ่านคำสั่งไปยัง Ion Channel เพื่อให้เปิดประตูรับสารละลายของน้ำและเกลือแร่เข้าไปในเซลล์ เพื่อกระบวนการเผาผลาญสารอาหารเปลี่ยนเป็น
พลังงาน และในขณะเดียวกันก็ส่งผ่านของเสียออกสู่ระบบขับถ่าย ทำให้เซลล์แข็งแรง และมีความสามารถในการสร้างภูมิต้านทานต่อโรคเพิ่มมากขึ้น


2.F.I.R (พลังงานแสงอินฟาเรด)  
รังสีอินฟาเรดเรย์เป็นส่วนหนึ่งของแสงสเปคตรัม (แสงเจ็ดสี) ซึ่งเป็นแสงที่มีอยู่ในแสงแดดและไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า รังสีนี้รู้จักในอีกชื่อหนึ่ง คือ 
รังสีไบโอยีนเนติก (คลื่นความยาวของแสงอยู่ระหว่าง 6-14 ไมครอน) นักวิทยาศาตร์ได้พิสูจน์แล้วว่า รังสีอินฟาเรด สามารถเสริมสร้างการเจริญเติบโต 
และฟื้นฟูเซลล์ของสิ่งมีชีวิตได้ โดยเฉพาะพืช สัตว์และมนุษย์ และยังช่วยในการค่าเชื้อแบคทีเรียบางชนิด รังสีอินฟาเรด
แบ่งลักษณะความยาวของคลื่นออกเป็น 3 ประเภทดัวยกัน Near Infrared Medium Infrared Far Infrared

จากผลการวิจัยและศึกษาพบว่าคลื่นรังสีที่มีประโยชน์ต่อมนุษย์
เรามากที่สุด คือ Far Infrared สามารถช่วยในการ เสริมสร้าง
การเจริญเติบโต และฟื้นฟูเซลล์ของสิ่งมีชีวิตได้โดยเฉพาะพืช
สัตว์และมนุษย์ โดยรังสีรังสีฟาอินฟาเรด จะสั่นโมเลกุลของ
ของเหลวให้แตกตัวออก และมีผลต่อเนื่องกับน้ำภายในร่างกาย
ของมนุษย์ ร่างกายของมนุษย์กว่า 70% ประกอบด้วยน้ำเป็นสิ่ง
สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นในเลือด ผิวหนัง ตา ก็มีส่วนประกอบ
ของน้ำอยู่ โดยปกติโมเลกุลของน้ำจะเกาะกลุ่มกันอยู่ประมาณ
14 - 16 โมเลกุล น้ำจะเป็นตัวนำพาสารอาหารและออกซิเจนเข้า
สู่เซลล์ การดูดซึมสารอาหารของเซลล์จากน้ำที่เกาะกลุ่มกันอยู่
ประมาณ 14 -16 โมเลกุล นั้น โดยปกติจะนำพาสารอาหารและ
ออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ได้เพียง 40% เท่านั้น 
การแตกตัวออกของโมเลกุลน้ำจะแยกตัวเป็นอิสระ หรือสลาย
แรงยึดเหนี่ยวที่เกาะกันแน่นเป็นกลุ่มให้เล็กลงประมาณ 5 - 6
โมเลกุล จากเดิม 14 - 16 โมเลกุล จะให้น้ำเคลื่อนไหวได้มาก
ขึ้น เป็นอิสระขึ้นซึ่งช่วยในการเหนี่ยวนำสารอาหารและออกซิเจน
ไปยังเซลล์ได้ดีขึ้น ทำให้สามารถนำพาสารอาหารและออกซิเจน
เข้าสู่เซลล์ได้มากขึ้นถึง 90% เมื่อเซลล์ได้รับสารอาหารและ
ออกซิเจนมากขึ้น กระบวนการทำงานต่างๆ ภายในเซลล์ก็จะดีขึ้น
สามารถนำพาของเสียและกำจัดสารพิษที่ตกค้างอยู่ภายในเซลล์
ออกมาได้มากขึ้น กระบวนการซ่อมแซมเซลล์ก็ทำได้ดีขึ้น ช่วย
ให้ระบบตับ และไตไม่ต้องทำงานหนักในการกำจัดของเสียอาการ
ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากกระบวนการกำจัดสารพิษของเซลล์
อาการต่างๆ จะเป็นอยู่ 2 - 3 วัน

มึนศรีษะ ขึ้นไส้อาเจียร ถ่ายท้อง ผื่นขึ้น เป็นไข้ ความดันสูง

ดังนั้นเมื่อคนเราได้รับพลังงานฟาอินฟราเรด จะทำให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ระดับปริมาณออกซิเจนในร่างกายมากขึ้น การเผาผลาญและกำจัดไขมัน
สารเคมีและสารพิษในเลือดดีขึ้น ส่งผลดีต่อสุขภาพ ฟาร์อินฟราเรด (FIR) เป็นรังสีที่ให้ความร้อน โดยธรรมชาติคนเรารับรังสีนี้ได้จากดวงอาทิตย์อยู่แล้ว 
เป็นรังสีที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น อยู่ใต้รังสีสีแดง ความยาวคลื่นของ FIR มีตั้งแต่ 4-1,000 ไมครอน (1 ไมครอน = 1/1,000 มิลลิเมตร) แต่ในโมเลกุลเซลล์
ของมนุษย์สามารถดูดซับคลื่น FIR ได้เพียง 6-14 ไมครอนเท่านั้น รังสีจากดวง อาทิตย์มีคลื่นยาวถึง 4-1,000 ไมครอน จึงร้อนแรงมากเกินไป และยังมีรังสีอันตรายอื่นๆ เช่นรังสีแกมม่า เอกซเรย์ UV ฯลฯ ปะปนมาด้วย

FIR มีความสามารถพิเศษต่อกระบวนการทำงานของร่างกายคือ:

- กระตุ้นการไหลเวียนเลือด
- ปรับสมดุลความดันเลือด
- ลดอาการปวดข้อ ปวดกระดูก
- กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทสั่งการ
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตับ และไต
- กระตุ้นระบบการเผาผลาญสารอาหารเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงาน
- ปรับสมดุลกรด-ด่างในร่างกาย

  

พลังงานความร้อนจาก ฟาร์อินฟาเรด (FIR) เป็นความร้อนที่สามารถลงลึกถึงชั้นผิวหนัง ระดับ 5-6 ซม.ซึ่งเป็นการกระตุ้นต่อมเหงื่อจริงๆ ผิวจึงไม่เสียความ
ชุ่มชื้น ผิวพรรณสดใส นวลเนียน เพราะทำให้โลหิตหมุนเวียนได้เป็นอย่างดี และใช้ประจุลบทำให้หายใจสะดวก สดชื่น พลังจาก ฟาร์อินฟาเรด (FIR) มีผล
ทำให้เส้นเลือดภายในร่างกายขยายตัว มีผลทำให้อัตราการการเต้นของหัวใจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น ร่างกายจะปรับตัวปล่อยเหงื่อออกมา ทำให้
การสูบฉีดเลือดไปเลี้ยง หัวใจได้เป็นอย่างดี